จากที่ผมเข้าใจในหัวข้อที่ จขกท ตั้งไว้..ผมเข้าใจว่าเจ้าของกระทู้ ไม่รู้ว่าเรียนจบแล้วจะมีตังค์ใช้มั้ย เพราะแค่จะเรียนให้จบคงไม่ยากเกินไป ใช่มั้ยครับ? งั้นขออนุญาต แนะนำ สายงานต่างๆของคน IT ไว้คร่าวๆก่อนแล้วกันเนอะ แล้วค่อยตัดสินใจเองว่าจะเอายังงัย แต่ก็นะงาน IT เหมือนหมอมากๆ ที่ต้องทำงาน 24ชั่วโมง 7วัน คือทุกครั้งถ้ามีปัญหาต้องหาเราเจอให้ได้ ยังงัยก็ต้องทำงานครับ น่าสงสารเนอะคนไอที จริงๆแล้ว งาน IT ในเมืองไทย แบ่งได้เป็น 4 ประเภท สามารถโดดไปมาได้ เพราะจริงๆแล้ว IT ทุกคนต้องเรียนพื้นฐานมาเท่าๆกัน เช่น Database, Data Structure, Data Communication และ Multimedia เป็นต้น ส่วนงานด้านต่างๆมีดังต่อไปนี้ 1. Programming งานในส่วนนี้ตามความเข้าใจของผม วันๆก็จะนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่ค่อยได้สนใจโลกภายนอก ออกจะ Anti-Social ด้วยซ้ำ (ในช่วงที่เขียนโปรแกรม) เพราะเขียนโปรแกรมให้ตรงตามต้องการของลูกค้า ในเวลาที่กำหนด ดังนั้นเวลาคนที่เขียนโปรแกรมมากๆ จะคุยกับคนอื่นไม่ค่อยจะรู้เรื่อง นอกจากพวกเดียวกันเอง (เคยเป็นตอนทำโปรเจ็คจบ คุยกะครอบครัวไม่รู้เรื่องเลย หุหุ) เพราะต้องคอยแต่จะคิดเป็น Structure อยู่ตลอดเวลา ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ชอบสุงสิงกับใครเวลาทำงาน ตัวเลือกนี้ก็เหมาะสมครับ งานของส่วนนี้ได้แก่   1.1 Application Tester   1.2 Jr. Programmer   1.3 Sr. Programmer   1.4 Debugger   1.5 System Analyst   1.6 Application Project Manager   1.7  ผลิต Software ขายเอง ป.ล. คนทำงานด้านนี้ส่วนใหญ่ ย้ำ ส่วนใหญ่ แต่งตัวไม่เป็น สังเกตุได้จากเวลาไปงานแต่งเพื่อน พวกโปรแกรมเมอร์ แต่งตัวไม่ in-trend เลย กร๊ากๆ แต่เงินเยอะมากๆครับ แค่เป็น Sr. Programmer บางที่ก็ได้ 4-5 หมื่นแล้วครับ ไม่แต่งตัว ไม่ค่อยได้เที่ยว เงินเหลือบานเลยเด้อพี่น้อง 2. System/Networking งานส่วนนี้จะต้องขยัน และอดทนอย่างมากครับ เพราะงานส่วนนี้ต้องใช้ทั้งแรงกาย และสมอง เช่น ไปืำ site survey เพื่อมา design ระบบ บางที่ต้องเดินขึ้นตึก 20-30 ชั้น เพียงเพื่อจะไปดูห้องระบบ (เจอมากับตัว เดินขึ้นบันได 26 ชั้น ไปดูห้อง server ตอนตึกกำลังสร้าง) นอกจากนั้นถ้าเกิดมีปัญหาอะไรก็ตาม ฝั่งนี้จะโดนก่อนฝ่ายอื่น เนื่องจากต้องแก้ใขปัญหาเบื้องต้นก่อน เจอลูกค่า ยูสเซ่อร์(ใช้คอมจนโง่) ด่าก่อนเพื่อน ดังนั้นฝ่านนี้ต้องอดทนทั้งงานหนักยักกะกุลี อดทนทั้งเสียงบ่นของยูสเซอร์ งานของฝ่ายนี้ได้แก่   2.1 ซ่างซ่อมคอมตามร้านทั่วไป   2.2 Technical Support/Support Engineer   2.3 System Administrator   2.4 System Engineer   2.5 Jr. Network Engineer   2.6 Sr. Network Engineer   2.5 Pre-sale Engineer   2.6 System Project Manager   2.7 IT Manager ป.ล. คนที่ทำงานด้านนี้ จะแต่งตัวเซอร์ๆ เพราะไม่ต้องกลัวเปื้อน กินเหล้าเก่งมาก เพราะโดนด่าบ่อย เซง (555+ อันนี้เหตุผลส่วนตัวครับ) ขี้เบื่อ ชอบให้เอาใจ เพราะต้องคอยเอาใจคนอื่นตลอดเวลา เงินก็น้อยกว่าชาวบ้านครับ แต่ถ้าเก่งๆก็ไม่ต้องห่วงเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่แล้ว จะมาได้เงินเยอะตอนเป็น Project Manager แล้วอะครับ คงต้องใช้เวลานานกว่าโปรแกรมเมอร์หน่อย แต่คุ้มครับเพราะเราได้เจอคนเยอะกว่า Connection ก็เยอะกว่า วันนึงถ้าเราจะประกอบธุรกิจเอง ก็มีฐานลูกค้าเยอะมาก แต่ถ้าไม่ทำก็สามารถเลี้ยงลูกเมียได้ สบายๆครับ เงินเดือนก็น่าจะพอๆกับ Programmer ในบั้นปลาย 3. Database งานในส่วนนี้จะเกี่ยวพันทั้ง Programming และNetwork ครับ ดังนั้นคนที่จะทำงานด้านนี้นอกจากจะเก่งเรื่อง Database แล้ว ยังต้องมีความรู้ทั้ง 2 ด้านอีกพอสมควรเลยครับ เงินของคนที่ทำงานด้านนี้จึงเยอะกว่าชาวบ้าน แต่จะนิ่งๆ ไม่ค่อยมีอะไรหวือหวา ตัวอย่างงานฝ่ายนี้ได้แก่   3.1 Database Admin   3.2 Database Analyse ปล. คนในส่วนนี้ก็จะเอา ทั้ง สองฝ่ายข้างต้นมารวมกันคือ แต่งตัวไม่เป็น ไม่ค่อยได้เจอผู้คน วันๆอยู่แต่กับ Database Server ย้าย record นี้ไปอยู่ที่ table นู้น สนุกสนานกันเลยทีเดียวเชียว 4. Multimedia สำหรับฝ่ายนี้งานส่วนใหญ่ก็จะเป็นงานออกแบบ Graphic ต่างๆ ตกแต่งรูปภาพ ตัดต่อหนัง ซึ่งงานพวกนี้ก็รู้อยู่แล้วว่าพวกที่เรียนต้อง Art แค่ไหน? เพราะถ้า Art ไม่พอ ไม่สามารถ Design งานเองได้ ก็ต้องเป็นเบ๊เค้าต่อไป คือใช้เทคโนโลยีไม่เป็นแต่Designเป็นจะรวยกว่าDesign ไม่เป็นแต่ใช้Technologyเป็น ตัวอย่างของงานฝ่ายนี้ได้แก่   4.1 Graphic/Web Designer   4.2 Art Director   4.3 Special Effect Creator   4.4 เปิดร้าน Wedding Studio ตัดต่อ Presentation งานแต่ง ดูแต่ละคู่แต่งงานกัน แต่ตัวเองหาไม่ได้ซักที Y_Y ป.ล. เนื่องจากพวกนี้ต้องใช้ทักษะในการออกแบบสูง จนไม่มีเวลามาดูแลตัวเอง หนวดเคราจะรุงรัง เสื้อผ้า จะโทรมๆ แนวๆ ไม่เข้าพวกเพราะไอเดียท่านพวกนี้บรรเจิดเหลือเกิน ยากเกินกว่าคนธรรมดาอย่างข้าน้อยจะเข้าถึง แต่ถ้าฝีมือดีก็ได้ไปไกลถึง ฮอลลิวู๊ดเลยทีเดียวแหละ ก็เรียกได้ว่าไม่จนเหมือนกัน สรุปสาขาไหนก็ตาม ก็จะมีข้อดีข้อเสียต่างกันออกไป แต่ทกสาขาสามารถหางานได้ไม่ยาก และทำเงินได้ดีถ้าเราใส่ใจกับมัน ยังงัยก็เลือกสาขาที่เหมาะกับตัวเองจะทำให้เราสนุกกับมันมากที่สุดครับ