วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555


เรียนจบมาในสาขาที่หางานยาก ทำอย่างไรดี HELP ME !
ดีใจจังครับ วันนี้ได้นั่งเขียนต้นฉบับที่ STARBUCKS วิวมันดีครับ หัวแล่นฉิวเลย มันก็เลยทำให้ผมหวนนึกถึง TOPIC ใหม่ได้ ก็คือ ผมว่าหลายคนประสบปัญหานี้อยู่ ยังไงปัญหานี้ผมต้องโทษใครไม่ได้ต้องโทษรัฐบาล แต่ไม่รู้แหละรัฐบาลไหนก็เหอะ ปูพื้นการศึกษาไทยผิดๆเยอะมาก ดังนั้น ปัญหานี้จึงเกิดขึ้น ก็คือ คนที่เรียนมาในคณะหรือสาขาที่เฉพาะทางมากๆ หางานยาก ส่วนใหญ่เป็นสายสังคมศาสตร์ซะเยอะ แต่ไม่ใช่ในสายวิทยาศาสตร์ไม่มีนะครับ เช่น บัญชี STAT โบราณคดี นวัตกรรมสังคม การจัดการ หรือแม้กระทั่งคณะชื่อแปลกๆที่ใช้คำนำหน้าว่า สห สะหะต่างๆจบแล้วหางานโคตรยากเลย แต่ พ..นี้ต้องใช้คำว่ายากโคตรเลย ผมจะแนะนำวิธีเอาตัวรอดให้ได้
             1. 
ถามอาจารย์ รุ่นพี่ หรือคณบดีเลย ถ้ามันไม่มีใครตอบให้คุณได้ ถามว่าส่วนใหญ่มันจบแล้วทำอะไรกัน เดินตามสายแคบๆที่เรียนมา เรียนให้เก่งที่สุด ฝึกงานเยอะๆแล้วก็ไม่ต้องคิดอื่นใด ไหนๆก็หลงมาแล้ว เอามันให้สุดๆไปเลย
             2. 
ถ้าดูแล้วทำท่าจะไม่รอด ตกงานแน่ๆต้องหาทางสร้าง VALUE ADDED ให้ตัวเองไม่ต้องสนสิ่งที่เรียนมาเลย ถ้าหน้าตาดีก็ฝึกภาษา Eng , CHN ( จีนครับ ) , ญี่ปุ่น หางานด้านบริการทำเลย งานบริการแบบบนดิน
นะครับไม่ใช่อย่างที่คุณคิด หรือไม่ก็เรียน IT หนักๆเลย ยังไงต้องหางานที่คุณถนัดให้ได้แล้วมุ่งไปเลย แม้กระทั่ง ไปทำงานเป็น พ่อค้าขายของก็ต้องทำดีกว่ากอดปริญญาแล้วจนตัวตาย
             3. 
เรียนต่อใหม่เลย ใช้มุข ชุบตัว ไม่ต่อเมืองนอกก็เรียนในนี้แหละ แต่พยายามเน้นในสาขาที่ตลาดแรงงาน มีความต้องการและมีอนาคต ไม่ใช่เห็นว่า เรียนต่อในสาขาเดิมเรียนง่ายดี เดี๋ยวจบกลับมาก็อีหรอบเดิมอีกพอชุบตัวเสร็จก็เอามันให้ดี เช่น ถ้าไปเรียนเมืองนอกกลับมา Eng ก็ต้องปร๋อเลย ไม่ใช่เดี้ยงกลับมาอีก MAJOR ที่เรียนมาก็ต้องรู้ให้ลึก
             4. 
หางานอะไรได้ทนทำไปก่อน ค้นหาตัวเองให้พบ จนกระทั่งมีความเชี่ยวชาญในงานด้านใดด้านหนึ่ง
ให้ได้เพราะถ้าเลือกงานอาจจะอด ลืมความภูมิใจไม่ว่าจะมีปริญญาตรีหรือโทใดก็ตาม มันกินไม่ได้
             5. 
ทางสุดท้ายใช้กำลังภายใน ใช้เส้นนะ จับยัดเข้าไปทำงานที่ใดก็ได้ แล้วก็ทำตัวเป็นเด็กเส้นที่ดี 
เจียมเนื้อเจียมตัว
             
สุดท้ายขอประมาณนะครับ สำหรับคณะหรือภาควิชาใดที่ Obsolete แล้วกรุณาทบทวนเถอะครับ สงสารเด็ก มันอาจจะเคยดังมีDemand นะครับ แต่ถ้ายังผลิตบัณฑิตออกมาก็จะเจอปัญหาแบบนี้ แล้วก็ต้องมาตามแก้อีก แล้วไม่รู้คนที่ด้อยโอกาสในสังคม ไม่รวย ไม่ฉลาด ไม่มีเส้น เค้าจะเอาตัวรอดอย่างไร ผมขอเถอะครับ และขออวยพรให้ น้องๆคุณๆจงเอาตัวรอดโชคดีนะครับ

วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555


การเตรียมตัวสมัครงานสาย IT 


นักศึกษาจบใหม่หรือผู้ที่ต้องการยกระดับตนเอง (เปลี่ยนแปลงสายงาน) มาทำงานสายไอทีคงคิดคิดแล้วคิดอีก ว่าเราจะเปลี่ยนแปลงตนเองดีไหม และตัวเราเองเหมาะกับงานด้านไหนดีหลายท่านเคยฝันไว้กับการทำงานสายไอที แต่ความฝันอาจจะไปไม่ถึงดวงดาวเพราะเราฝันเกินความจริงทำให้หลายท่านเบนสายงาน ไปทำงานสายอื่นเพื่อประทังชีวิตไปก่อน แต่พอระยะเวลาผ่านไปก็อยากหมุนเข็มนาฬิกากลับมาทำงานสายไอทีตามสาขาที่เรียนจบมา หากเป็นแบบนี้แล้วต้องมีวิธีการวางแผนและการเตรียมตัวที่ดี
หากจะมองถึงระบบการศึกษาในบ้านเราจะเห็นได้ว่าแทบทุกสถาบันฯ มีการเปิดสอนด้านไอที (IT) กันทั้งนั้น นับเป็นสาขาที่สุดฮิตในสองสามปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว ส่วนใหญ่การเรียนการสอนในระบบการศึกษาบ้านเราจะเน้นสอนภาคทฤษฎี มากกว่าภาคปฏิบัติ หลายท่านจบการศึกษาได้เกรดสูงๆ แต่ทำงานได้ไม่สมกับ GPA ที่ได้มา สำหรับบทความตอนนี้ผู้เขียน เขียนขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนเอง ให้เพื่อนๆ วงการไอทีได้ทราบ ซึ่งจริงๆ แล้วการทำงานสายไอทีให้ประสบความสำเร็จนั้น มิช่ายเรื่องยากเย็นเลย เพียงแต่เราต้องรู้จักวิธีการวางแผน การศึกษาหาข้อมูล และมีที่ปรึกษาดีๆ เพื่อเพิ่มลางลัดในการเรียนรู้(สำหรับเทคนิคหรือทางลัดในการนำไอทีไปประยุกต์ใช้ในหน่วยงานอย่างชาญฉลาดผู้เขียนจะนำมาเขียนให้ทราบเป็นตอนที่ 2 ละกัน)
การสั่งสมประสบการณ์ด้านทักษะ(Skills)อาจจะมาจากหลายแนวทาง อาทิ เช่น
ที่มาของประสบการณ์
1. หาประสบการณ์จากการทำ LAB ในรายวิชา+รายงานส่งอาจารย์
2. หาประสบการณ์จากการซื้อหนังสือมาอ่านแล้วทำตาม
3. หาประสบการณ์จากการค้นหาจากอินเทอร์เน็ตแล้วทำตาม
4. หาประสบการณ์จากสถานประกอบการณ์ที่ไปฝึกงาน
5. หาประสบการณ์จากการไปเรียนเพิ่มเติมที่โรงเรียนสอนพิเศษ
อัตราเงินเดือนคนทำงานสายไอที
สามารถดูข้อมูลอัตราเงินเดือนคนทำงานสายไอทีได้จากเว็บไซต์เหล่านี้
Salary Guide for 2008-2009 (ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.adecco.co.th)
Adecco Salary Guide 2008/2009
Adecco Industrial Salary Survey 2008/2009
Salary Survey January 2009 (ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.geminipersonnel.com)
Salary Survey January 2009


หลักสูตร IT ที่เปิดสอนในปัจจุบัน
สายงานด้านไอที
สำหรับสายงานด้านไอทีปัจจุบันมีให้เลือกสมัครจำนวนมาก รวมทั้งมีตำแหน่งงานมากที่สุดแทบจะว่าได้สำหรับอัตตราเงินเดือนของคนทำงานสายไอที อันนี้น่าจะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้สมัครเอง การเรียกอัตตราเงินเดือนนั้นขึ้นอยู่กับฐานบริษัทเป็นหลัก
1.สายผู้บริหารไอที (IT Management)
สำหรับอาชีพสายผู้บริหารสารสนเทศขององค์กร จำเป็นเป็นต้องเป็นผู้มีประสบการณ์ในการทำงานมาพอประมาณน่าจะไม่ต่ำกว่า 5 ปี สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก-ขนาดกลางตำแหน่งสูงสุดน่าจะเป็น IT/MIS Manager ส่วนองค์กรขนาดใหญ่ต่ำแหน่งระดับสูงที่ดูแลส่วนไอทีจะใช้ตัว C นำหน้า เช่น CIO, CTO อันนี้ก็แล้วแต่ว่าแต่ละบริษัทจะเน้นที่ข้อมูลหรือเน้นที่เทคโนโลยี/นวัตกรรมใหม่ๆ ผู้บริหารไอทีต้องมีศาสตร์ในตัวหลายด้าน สามารถแก้ปัญหาฌเฉพาะหน้าได้
มองมิติต่างๆ ของธุรกิจได้ทะลุปรุโปร่ง สามารถทำเน้นโนโลยีมาประยุกต์ใช้งานกับธุรกิจตนเองได้อย่างเหมาะสมรวมทั้งสามารถสร้างให้บุคคลากรในหน่วยงานใช้เทคโนโลยีได้อย่างชาญชลาด ตัวอย่าง อาชีพระดับบริหารไอที เช่น
- CEO (Chief Executive Officer) เน้นทุกด้าน
- CIO (Chief Information Officer) เน้นด้านระบบข้อมูล
- CTO (Chief Technology Officer) เน้นด้านเทคโนโลยี
- CFO (Chief Finance Officer) เน้นด้านการเงิน
- COO (Chief Operation Officer) เน้นด้านปฏิบัติการหรือดำเนินการ
- CMO (Chief Marketing Officer) เน้นด้านการขาย 

- General Manager ผู้จัดการทั่วไป
- IT Manager ผู้จัดการฝ่ายไอที
- MIS Manager
- IT Division Manager
- IT Sales Manager
- IT Audit Division Manager
- IT System Division Manager
- Business Development Manager
- IT Specialist
- MIS Supervisor
- ICT Manager
- Assistant IT Manager


IT Management Jobs

2.อาชีพสายผู้ดูแลระบบเครือข่าย (Network Admin Jobs)
สำหรับสายผู้ดูแลระบบเครือข่าย (นิยมเรียกกันในชื่อ Admin)จะเป็นผู้ดูแลระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขององค์กร สามารถแบ่งได้ 3 สายย่อย ตามชนิดระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน ดังนี้
2.1 ผู้ดูแลระบบเครือข่ายองค์กรขนาดใหญ่ ระบบปฏิบัติการที่ใช้จะเป็น
- UNIX เช่น IBM AIX, Sun Solaris
* สามารถบริหารจัดการแอคเคาน์ผู้ใช้, ติดตั้งระบบเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ อาทิ DNS, Web, Mail, Proxy, Database, Backup, ...
2.2 ผู้ดูแลระบบเครือข่ายองค์กรขนาดกลาง ระบบปฏิบัติการที่ใช้จะเป็น
- Windows Server (2003, 2008)
- Linux Server เช่น RedHat, Slackware, SuSE, Debiun, Ubuntu, CentOS
- BSD Server เช่น FreeBSD, OpenBSD, NetBSD
2.3 ผู้ดูแลระบบเครือข่ายองค์กรขนาดเล็ก ระบบปฏิบัติการที่ใช้จะเป็น
- Windows Server (2003, 2008)
- Linux Server เช่น RedHat, Ubuntu, CentOS
- BSD Server เช่น FreeBSD
- ระบบเซิร์ฟเวอร์สำเร็จรูป เช่น IPCop, pfSense, ClarkConnect, Endian ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่)
สำหรับตำแหน่งงานสายเครือข่ายมีหลายตำแหน่งด้วยกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่ว่าหน่วยงานที่เราไปสมัครเขาเน้นใช้ระบบปฏิบัติการค่ายไหน เราก็ศึกษา NOS ตัวนั้นเป็นพิเศษ ตัวอย่าง อาชีพสายเครือข่าย เช่น
- System Engineer วิศวกรระบบ
- System Administrator ผู้ดูแลระบบเครือข่าย
- Network Engineer วิศวกรเครือข่าย
- Network Administrator
- IT Administrator
- IT System Admin
- IT Security
- Network Security
- Internet Security Manager
- IT Network Infrastructure
- Network Operation เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการและดูแลแครือข่าย
- Lotus Notes/Domino Admin
- Internet Security Systems Engineer
- Linux Administrator


Network Jobs

3.อาชีพสายนักเขียนโปรแกรม (Programmer Jobs)
สำหรับสายนักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมเมอร์ นักศึกษาที่เรียนสายวิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science)หรือสายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ (Software Engineering) น่าจะได้เปรียบเป็นพิเศษ อาชีพนักเขียนโปรแกรมนั้นผู้เขียนต้องมองข้อมูลต่างๆ ในเชิง Logic เข้าใจศาสตร์และรูปแบบการเขียนโปรแกรม จริงแล้วในปัจจุบันมีหนังสือสอนจำนวนมาก หรือสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากอินเทอร์เน็ตได้เช่นกัน สำหรับในเมืองไทยเราส่วนตัวผมอยากแนะนำให้ใช้หลักทฤษฎี Copy and Modify มิใช่ใช้ทฤษฎี Copy and Copy (ที่ว่านี้เนื่องจากในปัจจุบันมีซอฟต์แวร์ลักษณะ Open Source
ให้ดาวน์โหลดมาใช้งานฟรีจำนวนมาก หลังดาวน์โหลดมาแล้วน่าจะสามารถปรับแต่งข้อมูลส่วนโค้ดเพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง)แต่หากเขียนด้วยตยเองได้ โดยไม่พึ่งพาซอสโค้ดต่างชาติ จะเป็นการดีมากๆ สำหรับ อาชีพสายการเขียนโปรแกรมนั้น สามารถแยกได้ 2 ส่วนคือ
3.1 งานโปรแกรมแบบ Offline (นิยมในอดีต)
- ภาษาที่เน้นใช้พัฒนาอาทิ เช่น C, C++, VB, Delphi, JAVA, Cobol
- ฐานข้อมูลที่นิยมใช้ เช่น MS Access, MS SQL Server, Oracle, Sybase, DB2
3.2 งานโปรแกรมแบบ Online (นิยมในปัจจุบัน) เน้นใช้งานผ่านโปรแกรมเว็บบราวเซอร์เช่น IE, Firefox, Opera
- ภาษาที่เน้นใช้พัฒนาอาทิ เช่น PHP, ASP, ASP.NET, JSP, PERL, PYTHON, RUBY (ไปดูข้อมูลสายเว็บไซ์ด้านล่างเพิ่มเติม)
- ฐานข้อมูลที่นิยมใช้ เช่น MySQL, PostgreSQL, MS Access, MS SQL Server
- โปรแกรมเว็บเซิร์ฟเวอร์ เช่น Apache, IIS, Tomcat
ตัวอย่าง อาชีพสายการเขียนโปรแกรม เช่น
- Programmer
- Senior Programmer
- Cobol Programmer เน้นภาษาโคบอล
- Application Developer
- Application Developer (JAVA) เน้นภาษาจาวา
- Senior Java Developer เน้นภาษาจาวา
- Senior Test Engineer
- E-Commerce Developer
- Game Programmer
- Application Engineer
- VB Developer
- Senior Java Programmer
- PHP Programmer เน้นภาษาพีเฮสพี
- .Net Programmer (C#, VBT.NET) เน้นเทคโนโลยีดอทเน็ต อาจาใช้ภาษา C# หรือ VBT.NET
- Java Programmer
- Software Tester
- Ajax Programmer
- Software Engineer
- J2EE Programmer
- iPhone Application Developer เน้นใช้งานบนไอโฟน
- IT Development Specialist
- Project Manager
Programmer Jobs

4.อาชีพสายนักวิเคราะห์และออกแบบระบบ(System Analyst Jobs)
นักวิเคราะห์ระบบงานจะทำหน้าที่วิเคราะห์ระบบงาน ก่อนการส่งงานให้โปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรมสำหรับอาชีพสายนี้หากผ่านงานสายการเขียนโปรแกรมมาก่อนจะเป็นการดีมาก
ตัวอย่าง อาชีพสายนักวิเคราะห์และออกแบบระบบ เช่น
- Systems Analyst
- Business Analyst
- Senior System Analyst
- System Analyst AS/400
- System Analyst (RPG,AS400/IBM)
SA Jobs

5. สายเว็บไซต์ (Website)
สำหรับอาชีพสายเว็บไซต์ ปัจจุบันนับเป็นอาชีพ ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
ตัวอย่าง อาชีพสายเว็บไซต์ เช่น
- Web Programmer / Web Developer ทำหน้าที่พัฒนาแอพลิเคชั่น
- Web Designer ทำหน้าที่ออกแบบความสวยงานของเว็บไซต์
- Web Content ทำหน้าที่ดูแลข้อมูลก่อนนำมาใส่ลงเว็บไซต์
- Web Marketing ทำหน้าที่ทำการตลาด ทำรายได้ให้ตัวเว็บไซต์สร้างมูลค่าขึ้นมาได้
- Web Master / Web Manager ทำหน้าที่ดูแลและควบคุมเว็บ
- E-Commerce Developer พัฒนาระบบหน้าร้านขายของ
- Creative Web Designer
- Senior Web Designer
- Flash Programmer เน้นพัฒนาแอพลิเคชั่นด้วย Action Script
Website Jobs

6.อาชีพสายฐานข้อมูล (Database Jobs)
ทำหน้าที่ดูแลฐานข้อมูลขององค์กร
ตัวอย่าง อาชีพสายสายฐานข้อมูล เช่น
- Database Administrator (DBA)
- PL/SQL Developer
- Lotus System Analyst
- Database Architect
- Oracle Database Administrator (DBA)
- Data Warehouse Specialist
- Oracle Programmer
- Data Warehouse Developer
- Oracle Forms Developer
- DB2 Database Administrator
- Lotus Notes Developer
- MySQL Engineer
- MySQL DBA
Database Jobs

7. อาชีพสาย CRM/ERP
ทำหน้าที่ดูแลฐานข้อมูลลูกค้า และระบบจัดการบุคคลากรในหน่วยงาน
CRM : Customer Relationship Management
ERP : Enterprise Resource Planning
ซอฟต์แวร์ยอดนิยมในปัจจุบัน เช่น SAP (Systems, Applications and Products)
ตัวอย่าง อาชีพสาย CRM/ERP เช่น
- ERP Specialist
- SAP Basis Administrators
- SAP Specialist
- SAP Analyst : MM
- SAP Analyst : SD
- SAP Apprication Manager
- SAP Project Manager
- CRM Manager
- CRM Program Management
- CRM Business Data Manager
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 
http://www.sap.com
http://www.thaisap.com
http://www.sugarcrm.com
ERP-CRM Jobs

8.อาชีพสายคอมพิวเตอร์กราฟิก (Computer Graphic Jobs)
ตัวอย่าง อาชีพสายคอมพิวเตอร์กราฟิก เช่น
- Graphic Designer
- Computer Graphic
- Graphic Arts Designer

9.อาชีพสายการออกแบบ/เขียนแบบด้วยคอมพิวเตอร์/งานสามมิติ/Animation
ตัวอย่าง อาชีพสายออกแบบ/เขียนแบบด้วยคอมพิวเตอร์/ก เช่น
- Draftman (พนักงานเขียนแบบ)
- 3D Product Design Officer
- Interactive Media Editor
- Creative
- 3D Modeling
- 3D Character Animator
- 3D Visualizer
- Computer Animation

10. อาชีพสายสื่อผสม (Multimedia Jobs)
ตัวอย่าง อาชีพสายสื่อผสม เช่น
- Multimedia Designer

11. อาชีพสายที่ปรึกษาไอที (IT Consultant Jobs)
ตัวอย่าง อาชีพสายที่ปรึกษาไอที เช่น
- IT Consultant
- Business Intelligence Consultant
- ERP Consultant
- Datawarehousing Consultant
- CRM Consultant
12. อาชีพสายผู้ตรวจสอบไอที (IT Audit Jobs)
ตัวอย่าง อาชีพสายผู้ตรวจสอบไอที เช่น
- IT Audit (ผู้ตรวจสอบระบบสารสนเทศ)

13. อาชีพสายผู้สอนหลักสูตรไอที / ฝึกอบรมด้านไอที
ตัวอย่าง อาชีพสายผู้สอนหลักสูตรไอที / ฝึกอบรมด้านไอที เช่น
- Computer Teacher (อาจารย์สอนคอมพิวเตอร์)
- IT Trainner (วิทยากรอบรม/บรรยายด้านไอที)
- Instructor (ผู้สอนหลักสูตรคอมพิวเตอร์)

14. อาชีพสายผู้สนับสนุนไอที (IT Support Jobs)
ตัวอย่าง อาชีพสายผู้สนับสนุนไอที เช่น
- IT Support
- IT Support Officer
- Technical Support Engineer
- Technicial Support
- Maintenance Engineer
- Technical Services Engineer
- Helpdesk Supervisor
- IT Help Desk
- Customer Support
- IT Maintenance

15. อาชีพสายพนักงานขายอุปกรณ์ไอที (IT Sales Jobs)
ตัวอย่าง อาชีพสายพนักงานขายอุปกรณ์ไอที เช่น
- IT Sales
- Sales Executive
- Senior Sales Executive
- Product Specialist
- Product Manager
- Sales Engineer (IT)
- Sales Engineer (Solution)
- Sales Supervisor
- Pre-sales Consultant
- Sales Representative
- Project Sales
- Pre-sales Engineer

16. อาชีพสายพนักงานไอที
ตัวอย่าง อาชีพสายพนักงานไอที เช่น
- IT Officer
- System Operator
- IT Operator
- Computer Operator

17. อาชีพสายไอทีอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ตัวอย่าง อาชีพสายไอทีอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น
- นักเขียนหนังสือ (IT Book)
- นักเขียนนิตยสาร/หนังสือพิมพ์ (Columnist)
- นักข่าวสายไอที (Reporters)
- บรรณาธิการนิตยสารไอที
แหล่งข้อมูลศึกษาเพิ่มเติม 
http://www.itpc.or.th
http://www.tja.or.th
http://www.thaibja.org


ลิงค์เกี่ยวข้อง
รวมเว็บไซต์สมัครงานผ่านอินเทอร์เน็ต
เอกสารประกอบการบรรยายหัวข้อ "เส้นทางอาชีพสายไอที"

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555


สอบถาม เรียน ศึกษาศาสตร์รามคำแหง หลักสูตร 5 ปี แบบเทียบโอน
 
 
คือผม ป.ตรี คณะอื่นมา แล้วผมไปสมัครเรียน คณะศึกษาศาสตร์ เอกคณิต ม.ราม หลักสูตร 5 ปี

โดยผมเอาวุฒิ ป.ตรีเดิม ไปเทียบโอนได้ 63 หน่วยกิต เหลือเรียนอีก 98 หน่วยกิต



ซึ่งผมคิดดูแล้วผมสามารถเรียนจบและรวมวิชาฝึกสอน ภายใน 2.5-3 ปี



แบบนี้หากผมจบ จะได้ใบประกอบวิชาชีพครู ปกติเช่นเดียวกับคนที่เรียน ศศบ.5ปี เลยโดยไม่ต้องเทียบโอน 9 มาตรฐานแล้วใช่มั้ยคับ



รบกวนคุณ สารสนเทศด้วยคับ

ปล.ผมอ่านคู่มือใบประกอบวิชาชีพครูหน้าเว็บแล้วครับ แต่ในกรณีผมไม่มีระบุถึง
 
By : BT    วันที่ 27 พ.ค. 2554 , 00:57 น.   IP : 223.204.32.xxx     

ความคิดเห็นที่ 1
 
 
ถ้าวิชาที่เรียนมีครบ 9 มาตรฐาน + ได้ฝึกสอน 1 ปี แบบเต็มเวลาในหลักสูตร มันก็ต้องได้อยู่แล้ว

วุฒิที่ได้ ศศ.บ. ไม่ใช่ ศศ.บ. แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ไม่อยู่กับที่สักที ต้องระวังสิ่งนี้ให้ดี
 
By : -   วันที่ 27 พ.ค. 2554 , 09:58 น.   IP : 203.209.102.xxx   

ความคิดเห็นที่ 2
 
 
ได้แต่รามไม่ใช้เดินผ่านแล้วจะได้อย่างง่ายละ
 
By : cc   วันที่ 27 พ.ค. 2554 , 13:22 น.   IP : 125.25.138.xxx   

ความคิดเห็นที่ 3
 
 
จบแล้วเข้าสู่กระบวนการเทียบโอนค่ะ วิธีการนี้ รามคำแหงไม่ได้ขอรับรอง  รับรองเฉพาะหลักสูตร 5  ปี ปกติค่ะ
 
By : สารสนเทศฯ   วันที่ 28 พ.ค. 2554 , 08:48 น.   IP : 14.207.87.xxx   

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555


ความคาดหวังส่วนตัว ที่มีต่อ Technical Skill ของเด็กจบใหม่สาย IT

เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงรับสมัครทั้งเด็กจบใหม่และเด็กฝึกงานนะครับ หลังจากที่ผมได้คุยกับน้องๆ จบใหม่หลายๆ คน ก็เริ่มมีความรู้สึกตะหงิดๆ ใจในหลายๆ ประเด็น วันนี้เลยลองรวบรวมความคิดมาเขียนลง Blog เอาไว้ครับ เผื่อจะได้เป็นแนวทางให้น้องๆ ที่กำลังเรียนอยู่ในสาย IT ได้มีไอเดียว่า ถ้ามีเวลาว่าง จะไปศึกษาอะไรเพิ่มเติมดี ให้มันเพิ่มคุณค่าให้กับตัวเองในการทำงานสาย Technical ทางด้าน IT
คราวนี้ผมก็เข้าใจว่า เนื่องจากวิชาความรู้ทางด้าน IT เนี่ยมันกว้างมาก ดังนั้นการจะให้ทุกคนสนใจทุกเรื่อง หรือรู้ทุกเรื่องเนี่ยคงจะเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยๆ สิ่งที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ ก็คงจะเป็นแค่เรื่องพื้นฐานที่คิดว่าแต่ละคนควรจะรู้ เพื่อที่ว่าพอมาทำงานแล้วจะสามารถต่อยอดได้อย่างไม่ยากเย็นนัก และมีความรู้กว้างมากพอที่จะประยุกต์ หรือศึกษาสิ่งต่างๆ เพิ่มเติมด้วยตนเองได้ครับ
เบื้องต้นเลยครับ เรื่องของ “การเขียนโปรแกรม” ผมคิดว่าอย่างน้อยๆ ทุกคนก็คงจะต้องเขียนโปรแกรมกันได้คนละภาษาหรือสองภาษา ต่อให้ไม่คิดจะเอาดีทางด้านการเป็นโปรแกรมเมอร์ แต่อย่างน้อยๆ ต้องพอเห็นสโคปงานได้ว่า โปรแกรมแบบนี้ ยากง่ายแค่ไหน? เป็นไปได้หรือเปล่า? และควรจะต้องเคยใช้ Tools ที่ช่วยในการเขียนโปรแกรมมาบ้าง เช่น IDE, Version Control, Testing Tools มาบ้าง อาจจะไม่ต้องถึงขั้นเซ็ตเองใช้เอง (แต่ทำได้ก็จะดีมาก) แต่อย่างน้อยๆ ก็ควรเคยลองใช้งานจริงดูให้เห็นไอเดีย และข้อดีข้อเสียครับ
สำหรับเรื่องนี้ผมเคยเจอน้องจบใหม่สาย IT ที่เขียนโปรแกรมด้วย Notepad มาแล้วครับ อืมมม
ส่วนประสบการณ์ในการเขียนโปรแกรม ก็นอกจากเขียนโปรแกรมตามวิชา Algorithm กับ Programming Language แล้ว เรื่องของ Database, GUI, Web อะไรพวกนี้ก็ควรจะต้องเคยบ้าง ไม่ว่าจะทำงานสายไหน เพราะเดี๋ยวนี้ Product Network/Security ที่ต้องลงไปดูโค้ดพวกนี้ก็มีไม่น้อยแล้วเหมือนกันครับ รวมถึงควรจะมีพื้นฐานทางด้าน Concept ในการเขียนโปรแกรมด้วยนะ
และถ้ามีโอกาสได้ลองเล่น CMS เข้าไปนั่งขุดๆ โค้ดบ้างอะไรบ้าง ก็จะดีครับ
ในขณะที่ความรู้ทางด้าน “Operating System” ที่ผมเห็นว่าน้องๆ หลายคนแทบจะไม่รู้เรื่องเลยนั้น จริงๆ ผมก็อยากจะแนะนำว่า ในเวลาเรียนเนี่ยให้ลองหัดอะไรพวกนี้ดูบ้าง เพราะนอกจากจะเป็นการเปิดโลกทรรศน์ในหลายๆ ด้านแล้ว ความรู้ในด้านนี้จริงๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อีกเยอะแยะมากมายเลยครับ
เบื้องต้นก็คือ อย่างน้อยๆ อยากให้น้องๆ ไปลองโหลดพวก Server OS มาลงเล่นใน VMWare ดู ไม่ว่าจะเป็น Windows Server, Linux, Unix แล้วก็ลองเปิด Service พื้นฐานต่างๆ เล่นดู ว่ามันทำอะไรได้บ้าง แล้วตอนที่ทำโปรเจคต์ต่างๆ ก็ลองมาทำบน OS พวกนี้แทน แทนที่จะเขียนโค้ดแบบ Standalone บนเครื่องตัวเองครับ
ส่วน VMWare เนี่ย สมัยนี้ใครเล่นไม่เป็นนี่ถือว่าเชยนะครับจะบอกให้ 555 อาจจะไม่ต้องถึงขั้นไปเล่น ESXi เพราะก็เข้าใจว่าคงไม่มีเครื่องจะลอง แต่อย่างน้อยๆ ตัวที่เป็น Workstation ก็ต้องเคยผ่านมือมาบ้างครับ
ส่วนสุดท้าย ความรู้ทางด้าน “Networking” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาขายอดนิยม ที่น้องๆ ชอบบอกว่ามาสมัครงานสายนี้ เพราะไม่อยากเขียนโปรแกรม – - แต่พอเอาเข้าจริง ที่ผ่านมาก็เคยแต่เขียนโปรแกรมมาตลอด ก็เลยจะมาเริ่มต้นจากศูนย์กันใหม่ตอนสมัครงาน
อย่างน้อยๆ นะครับ ตอนเรียนเนี่ย ผมว่าก็ควรจะต้องหัดเซ็ต Router ที่บ้านตัวเองดูให้มันใช้ได้ หัดคอนฟิกอะไรประหลาดๆ ในบ้านตัวเองซะก่อน ถ้ามีวาสนาทำ Wireless ได้ก็ลองก๊อกๆ แก๊กๆ ดูครับ ไม่ยาก
จากนั้นโดยส่วนตัวก็คิดว่า ควรจะต้องเข้าใจ Concept ของ Network ให้ดีๆ ไม่ใช่ในเชิงท่องจำ แต่เป็นเชิงประยุกต์เล็กน้อย เช่น มี Network Diagram มา บอกว่าคอมตัวนี้เล่นเน็ตไม่ได้ ควรจะต้องไล่เน็ตเวิร์คยังไงคร่าวๆ หัดใช้ Network Command ในเครื่องตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น ping, tracert, nslookup, Wireshark และคำสั่งอื่นๆ หรือ Tools อื่นๆ มาช่วยครับ
ส่วนใครที่อยากเล่นลึกลงไปอีก ถ้ามีวิชาพวกที่เป็นแล็บให้ลง ก็ลงไปครับ แล้วก็ลองหัดคอนฟิกพวก VLAN, Routing เล่นๆ ดู ไม่ต้องลงลึกมากก็ได้ และก็ถ้าเป็นไปได้ ก็ลองไปเล่นพวก Service ต่างๆ บน OS เช่น DNS, DHCP, HTTPD, Firewall, Proxy, Network Monitoring มาตั้งระบบเล็กๆ เล่นเองดูครับ
ส่วนสำหรับงานทางด้าน “QA” อันนี้ต้องขอบอกตรงๆ ว่าผมก็ไม่ค่อยจะมีประสบการณ์อะไรเท่าไหร่ ไม่รู้เรื่องทางด้านนี้เลยด้วย ดังนั้นถ้าหากใครมีประสบการณ์จะมาแบ่งปัน ก็จะยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
และสำหรับ “Senior Project” ก็พยายามทำให้มันเป็น Project ที่ได้รีดเร้นความสามารถของเราออกมาอย่างเต็มที่ครับ และเรียนรู้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเนื้องานให้มากที่สุด และประยุกต์เอาสิ่งที่มีทั้งหมดที่เล่าไปเมื่อกี้ มาใช้ในงานด้วยครับ
ก็ประมาณนี้เท่าที่เขียนก็คิดว่าไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป แต่โดยรวมคือผมอยากให้น้องๆ ได้ลองทำภาคปฏิบัติให้เยอะยิ่งขึ้น เพื่อจะได้นำมาประยุกต์ใช้ได้ดียิ่งขึ้นครับ ตัวผมเองเป็นคนที่สมัยเรียนไม่ค่อยได้ทำภาคปฎิบัติมากนัก พอทำก็ไม่ได้ประยุกต์ความรู้เข้ากับอะไรที่จะนำไปใช้ ไม่ได้ต่อยอดมากมาย ตอนสัมภาษณ์งานก็ตอบแต่ว่า “ไม่ทราบครับ” ก็ไม่อยากให้น้องๆ ตกอยู่ในสภาพนี้ครับ
และที่สำคัญที่สุด คือจะทำให้น้องๆ ได้ลองรู้จักงานแต่ละสายมากยิ่งขึ้น ตอนตัดสินใจหางาน จะได้เป็นการเลือกงานทำ ไม่ใช่ให้งานเลือกเราครับ ผมเคยเจอคนที่จบคอม ไม่อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ และพบว่าตัวเองไม่มีทางไป เนื่องจากไม่รู้เรื่องสายอื่น จนต้องไปเปลี่ยนสาขาวิชาชีพมาบ้างเหมือนกันครับ
ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ สุดท้ายนี้ก็ขอให้โชคดีนะครับ
สวัสดีครับ

วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ยกเลิกเที่ยบโอน 9มาตราฐานวิชาชีพครู

ข่าวลือ
 
 
ขอทราบรายละเอียดหน่อยค่ะ...เพิ่งเรียนปี 1 มสธ.(ปริญญาตรีต่อเนื่องค่ะ)

ทำงานเอกชน อยากทราบว่าเทียบโอน 9 มาตรฐานจะคงมีต่อไปหรือเปล่าค่ะ  ข่าวลือว่าจะยกเลิกมาตรฐานทั้ง 9 จริงหรือเปล่าค่ะ
 
By : สาวอีสานหลานย่าโมค่ะ    วันที่ 18 ก.พ. 2555 , 17:17 น. Email : yingtip959@hotmail.com   IP : 115.31.162.xxx     

ความคิดเห็นที่ 1
 
 
มาตรฐานวิชาชีพครูทั้ง 9 คือ มาตรฐานความรู้ที่ท่านต้องมีควบคู่ไปกับมาตรฐานประสบการณ์วิชาชีพ  เพื่อขอใบประกอบวิชาชีพ ถ้ายกเลิกแล้วจะเอามาตรฐานอะไรมาเทียบให้ท่านว่าท่านมีความรู้ทางวิชาชีพครู
 
By : ....   วันที่ 19 ก.พ. 2555 , 09:00 น.   IP : 125.26.145.xxx   

ความคิดเห็นที่ 2
 
 
สิ่งที่เจ้าของกระทู้ถามคือ   "การเทียบโอนความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพของคุรุสภา" ซึ่งไม่ใช่ข่าวลือ แต่คือความจริงค่ะ คุรุสภากำลังมีแนวทางที่จะปิดการเทียบโอนฯ กรณีการเรียนหลักสูตรที่คุรุสภาไม่ได้รับรอง เหมือนดังเช่นที่เจ้าของกระทู้เรียนอยู่ก็ไม่ได้รับการรับรอง ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาวิธีการกันอยู่



ส่วนกรณี "การทดสอบความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ" ยังคงอยู่เช่นเดิมค่ะ



ทั้งสองกรณีเป็นกิจกรรมละกิจกรรมกันค่ะ แต่เพื่อให้ได้มาซึ่ง 9 มาตรฐานเหมือนกันค่ะ
 
By : เจ้าหน้าที่สารนิเทศปฏิบัติการ   วันที่ 20 ก.พ. 2555 , 10:20 น.   IP : 192.168.200.xxx   

ความคิดเห็นที่ 3
 
 
การเทียบโอนความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพของคุรุสภาแล้วหลักสูตรอะไรบ้างครับที่รับรอง ดูข้อมูลได้จากที่ไหน แล้ว เรียน ป.โท จะเที่ยบได้ไหมครับต่อไปนี้


http://www.ksp.or.th/ksp2009/en/webboard/detail.php?GroupID=&QID=16131

จะยกเลิกเทียบโอนปตรีของมสธ





ข้อความจาก wichune
วันที่ 27 พฤษภาคม 2555 เวลา 12:46  
 

พื้นที่ใช้ internet: ภาคใต้ 
สมัครเมื่อ: 9 กุมภาพันธ์ 2552  จำนวนโพสต์: 23  ครั้ง
 
View wichune's profileProfile Search for other posts by wichuneSearch Quote 
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วโทรไปถามคณะศึกษาศาสตร์ของมสธว่าเรียนปตรีศึกษาสาสตร์ของมสธแล้วเอาไปเทียบโอนได้หรือไม่เค้าบอกว่าได้แต่แค่ 7 ตัว ก็เลยตัดสินใจว่าจะเรียนปตรีของมสธ 2 ปีครึ่ง แต่เค้าบอกอีกว่าต้องถามคุรุสภาก่อนนะว่าจะยกเลิกเทียบโอนเมื่อไหร่ก็เลยถามคุรุสภาเจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าสำหรับมหาลัยที่ไม่ได้รับการรับรองจะให้เทียบจนถึงปลายปีนี้ ก็เลยสงสัยขึ้นมาว่ามสธเปิดให้เรียนปตรีศึกษาศาสตร์ แต่คนที่จบเอาวุฒิไปขอใบประกอบก็ไม่ได้เทียบโอนก็ไม่ได้แล้วจะเปิดเพื่ออะไรเพื่อให้ความรู้อย่างเดียวจะมีซักกี่คนคะที่ต้องการความรู้อย่างเดียวไม่ต้องการใช้วุฒิดิฉันไม่เข้าใจจริงๆ

ข้อความจาก koch
วันที่ 27 พฤษภาคม 2555 เวลา 17:47  
 

พื้นที่ใช้ internet: ภาคเหนือ 
สมัครเมื่อ: 20 เมษายน 2555  จำนวนโพสต์: 14  ครั้ง
 
View koch's profileProfile Search for other posts by kochSearch Quote 
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ หมดกำลังใจเลยค่ะ แต่ก็ต้องขอขอบคุณคุณwichuneนะคะ ที่ทำให้เราได้รับความกระจ่างในหลายเรื่องๆที่เรากำลังรอคำตอบค่ะ

ข้อความจาก vego
วันที่ 28 พฤษภาคม 2555 เวลา 10:17  
 

พื้นที่ใช้ internet: ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 
สมัครเมื่อ: 7 พฤษภาคม 2555  จำนวนโพสต์: 16  ครั้ง
 
View vego's profileProfile Search for other posts by vegoSearch Quote 
คุรุสภาให้เข้าอบรม ต มาตรฐานอยู่ครับ

ข้อความจาก koch
วันที่ 28 พฤษภาคม 2555 เวลา 16:49  
 

พื้นที่ใช้ internet: ภาคเหนือ 
สมัครเมื่อ: 20 เมษายน 2555  จำนวนโพสต์: 14  ครั้ง
 
View koch's profileProfile Search for other posts by kochSearch Quote 
ที่ให้เข้าอบรมนั้นเฉพาะคนที่เคยผ่านการเทียบโอนแล้วยังไม่ผ่านไม่ใช่เหรอคะ อันนี้ตามที่เราเข้าไปอ่านในเว็บนะ

ข้อความจาก wichune
วันที่ 28 พฤษภาคม 2555 เวลา 18:30  
 

พื้นที่ใช้ internet: ภาคใต้ 
สมัครเมื่อ: 9 กุมภาพันธ์ 2552  จำนวนโพสต์: 23  ครั้ง
 
View wichune's profileProfile Search for other posts by wichuneSearch Quote 
อบรมนั้นต้องผ่านการคัดเลือกซึ่งไม่รู้ว่าเค้าใช้เกณฑ์อะไรเท่าที่รู้คือคนที่เคยสอบเคยเทียบโอนแล้วเหลือไม่กี่วิชาก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าต้องเหลือเท่าไหร่ไม่มีอะไรแน่นอนอีกแล้วค่ะเปลี่ยนไปตามการเมือง ก่อนนี้ปิดปบัณฑิตทั่วประเทศแต่กลับมาเปิดให้เอกชนเรียนแต่เพียงผู้เดียวต่อมาเปิดให้อาชีวะเรียน กศนเรียน แล้วครูอัตราจ้างของรัฐละคะนี่แสดงว่านายหัวเราไม่ดีใช่มั้ยไม่ต่อสู้เพื่อเราเลย
บอกให้ไปเรียนครู 5 ปีแล้วคนที่ต้องทำมาหากินตั้งแต่เช้าจนเย็นจะเรียนตอนไหนละคะไม่ทำงานจะเอาเงินที่ไหนกินเอาเงินที่ไหนเรียน เค้าเข้าใจเราบ้างไหมเนี่ย

ข้อความจาก koch
วันที่ 28 พฤษภาคม 2555 เวลา 19:32  
 

พื้นที่ใช้ internet: ภาคเหนือ 
สมัครเมื่อ: 20 เมษายน 2555  จำนวนโพสต์: 14  ครั้ง
 
View koch's profileProfile Search for other posts by kochSearch Quote 
:) good พูดอีกก็ถูกอีกค่ะคุณ wichune


http://www.stou.ac.th/forum/display_topic_threads.asp?ForumID=5&TopicID=109575&PagePosition=2